ในฐานะผู้ให้บริการโลจิสติกส์ชั้นนำของโลก DB Schenker สนับสนุนการค้าและอุตสาหกรรมต่างๆ ในการแลกเปลี่ยนสินค้าผ่านกระบวนการขนส่งสินค้าทางอากาศ ทางทะเล และทางบก รวมไปถึงบริการโลจิสติกส์แบบสัญญาจ้าง และการบริหารจัดการซัพพลายเชน โดยเน้นให้ความสำคัญกับบริการเพิ่มมูลค่า (value-added services) เพื่อให้มั่นใจว่าการหมุนเวียนของสินค้าจะดำเนินไปอย่างราบรื่น พร้อมดูแลจัดการซัพพลายเชนให้เปี่ยมประสิทธิภาพอยู่เสมอเพื่อสนับสนุนธุรกิจของลูกค้าไปสู่ความสำเร็จสูงสุด

จากการเติบโตอย่างต่อเนื่องของตลาดผู้บริโภคในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมทั้งปริมาณสินค้าหมุนเวียนในเส้นทางการค้าภายในทวีปเอเชียที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว สถาบันวิจัย Forrester ได้มีการประเมินว่ามูลค่าการค้าปลีกผ่านทางออนไลน์ในรูปแบบการค้าระหว่างผู้ค้าถึงผู้บริโภคโดยตรง (B2C) จะเพิ่มสูงขึ้นจนถึง 53,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ภายในปี 2023 โดยได้รับแรงสนับสนุนจากอำนาจการใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น ด้วยเหตุนี้ ทางบริษัทจึงมองหาแนวทางในการขยายฐานลูกค้าภายในเอเชียผ่านความเชี่ยวชาญในบริการโลจิสติกส์แบบสัญญาจ้าง และบริการ ‘Asia LANDbridge’ ซึ่งเป็นบริการรถบรรทุกขนส่งสินค้าข้ามพรมแดนที่ได้รับการปรับปรุงประสิทธิภาพในระดับสูงสุด

เพื่อเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับแผนกลยุทธ์ของ DB Schenker ในการขยายตลาดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยมีประเทศไทยเป็นส่วนสำคัญในการปฏิบัติการ เราได้พูดคุยกับบุคคลสำคัญเบื้องหลังความสำเร็จของบริษัทฯ ในประเทศไทย ได้แก่ Mr. Jamil Siddique หัวหน้าฝ่ายโลจิสติกส์สัญญาจ้าง ประจำประเทศไทย ลาว และเมียนมาร์ และคุณศรัณย์ ลิมวรศักดิ์ หัวหน้าฝ่ายการขนส่งทางบก

A Comprehensive Understanding of Logistics Processes

ความชำนาญและความเข้าใจเชิงลึกในกระบวนการบริหารจัดการซัพพลายเชนของ DB Schenker เกิดจากความสามารถของบุคลากรในการเข้าถึงและระบุรายละเอียดเกี่ยวกับปัญหาและความท้าทายของลูกค้าแต่ละราย ซึ่งจะแตกต่างกันไปตามองค์ประกอบพื้นฐานของลูกค้า อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าเงื่อนไขของทางลูกค้าจะมีความซับซ้อนหรือท้าทายเพียงใด ทีมงานของ DB Schenker ก็สามารถค้นหาวิธีการจัดการกับปัญหาเหล่านั้นได้ด้วยวิสัยทัศน์ที่เปิดกว้าง และความพร้อมที่จะเรียนรู้ พัฒนา และปรับตัวเพื่อศึกษาและปรับใช้งานแนวทางและเทคโนโลยีใหม่ๆ รวมทั้งการสนับสนุนที่แข็งแกร่งจากเครือข่ายการปฏิบัติการที่กว้างขวางของบริษัทฯ

Mr. Jamil Siddique

ทั้งนี้ หนึ่งในขุนพลสำคัญของทีม DB Schenker ในประเทศไทยก็คือ Mr. Siddique ผู้เปี่ยมด้วยประสบการณ์ด้านบริการโลจิสติกส์แบบสัญญาจ้าง อีกทั้งยังมีความได้เปรียบจากประสบการณ์ที่เคยร่วมงานกับทั้งฝ่ายผู้ให้บริการ และฝั่งลูกค้าผู้รับบริการ อย่างผู้ให้บริการโลจิสติกส์ โดยเฉพาะในคลังสินค้าที่ใช้เทคโนโลยีล้ำสมัย รวมถึงประสบการณ์การทำงานกับบริษัทผู้ผลิตสินค้าอุตสาหกรรม ซึ่งเขาต้องรับมือกับปัญหาต่างๆ ทั้งในด้านการผลิตและการกระจายสินค้า จึงมีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งถึงอุปสรรคและความคาดหวังของทั้งสองฝ่าย

“ผมเริ่มเข้ามาทำงานในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ตั้งแต่ปี 1990 จากการเป็นผู้ปฏิบัติการคลังสินค้าให้กับ TDG หลังจากนั้นอีกสองสามปีก็ได้รับการเลื่อนตำแหน่งเป็นผู้จัดการฝ่ายปฏิบัติการคลังสินค้า โดยรับหน้าที่ดูแลระบบจัดเก็บและเบิกจ่ายอัตโนมัติ (ASRS) ที่มีระบบการทำงานแบบอัตโนมัติโดยสมบูรณ์ระบบแรกของโลก”​ Mr. Siddique กล่าว

หลังจากที่มีการเติบโตตามสายงานในระยะหนึ่ง Mr. Siddique ก็โยกย้ายไปรับตำแหน่งใหม่ในอินโดนีเซีย สิงคโปร์ และญี่ปุ่น ก่อนที่จะเดินทางมายังประเทศไทยเพื่อเข้ารับตำแหน่งผู้อำนวยการฝ่ายโลจิสติกส์ให้กับแบรนด์ผู้ผลิตรองเท้า ECCO “การที่มีโอกาสได้ทำงานกับฝั่งของผู้ผลิตถือเป็นประสบการณ์ครั้งสำคัญของผม จากการที่ได้เข้าไปมีส่วนร่วมในเหตุการณ์ที่เกิดจากความล่าช้าเพียงนิดเดียวของการจัดส่งวัตถุดิบ ซึ่งทำให้เห็นว่าความล่าช้าที่เกิดขึ้นได้ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อสายการผลิตภายในโรงงาน” Mr. Siddique กล่าว

สำหรับบทบาทในปัจจุบันของ Mr. Siddique ที่ DB Schenker เขามีหน้าที่รับผิดชอบปฏิบัติการคลังสินค้าของบริษัทฯ ในประเทศไทยซึ่งมีพื้นที่รวมกันกว่า 133,000 ตารางเมตร โดยกระจายตัวอยู่ตามที่ต่างๆ ตั้งแต่ในเขตกรุงเทพ​ฯ จนถึงเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) อีกทั้งยังรวมไปถึงการขับเคลื่อนธุรกิจบริการโลจิสติกส์แบบสัญญาจ้างในประเทศไทย ลาว และเมียนมาร์ด้วย

Cross-border Trucking & Domestic Transportation

ขณะที่การปฏิบัติการด้านการขนส่งทางบกในประเทศไทยของ DB Schenker อยู่ภายใต้การดูแลของคุณศรัณย์ ซึ่งปัจจุบันกำลังมุ่งขยายบริการขนส่งต่อเนื่องหลายรูปแบบที่มอบการบริการแบบผสมผสานระหว่างการขนส่งทางรางและการขนส่งทางรถบรรทุกเพื่อให้ได้โซลูชันที่ดีที่สุดสำหรับลูกค้า คุณศรัณย์เป็นบุคลากรที่มีพื้นฐานความรู้ที่กว้างขวางในด้านการพัฒนาธุรกิจระหว่างประเทศ การันตีด้วยดีกรีปริญญามหาบัณฑิตด้านการบริหารจัดการซัพพลายเชนจาก Massachusetts Institute of Technology (MIT) มหาวิทยาลัยชั้นนำของโลก ทำให้เขามีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งถึงความสำคัญของโซลูชันด้านการขนส่งที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ภายใต้ระยะเวลาการขนส่งที่ไว้วางใจได้

คุณศรัณย์ ลิมวรศักดิ์

“ประสบการณ์การทำงานของผมในฐานะที่ปรึกษาอาวุโส ซึ่งมีบทบาทในการพัฒนาแผนกลยุทธ์ให้กับธุรกิจต่างๆ รวมไปถึงการวางแนวทางการโปรโมทผลิตภัณฑ์อย่างมีประสิทธิภาพ ในท้ายที่สุดแล้ว ได้นำผมมาสู่ตำแหน่งงานปัจจุบันร่วมกับ DB Schenker โดยผมไม่เพียงมีหน้าที่ในการบริหารจัดการปฏิบัติการขนส่งทางบกของบริษัทเท่านั้น แต่ยังต้องคอยมองหาช่องทางในการเข้าสู่ตลาดใหม่ๆ อีกด้วย” คุณศรัณย์ กล่าว

การพัฒนาทางด้านเศรษฐกิจและการเติบโตของการใช้จ่ายในครัวเรือนของไทย รวมไปถึงประเทศเพื่อนบ้านอย่างลาว กัมพูชา และเมียนมาร์ ได้กลายเป็นปัจจัยกระตุ้นความต้องการสินค้า ส่งผลให้ปริมาณการขนถ่ายสินค้าข้ามพรมแดนเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ด้วยเหตุนี้ DB Schenker จึงวางกลยุทธ์ให้บริการ Asia LANDbridge เป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนปฏิบัติการขนส่งสินค้าทางบกของบริษัท

“บริการรถบรรทุกขนส่งสินค้าข้ามพรมแดนสามารถช่วยคุณประหยัดทั้งเวลาและต้นทุน โดยขึ้นอยู่กับประเภทสินค้าและปลายทางของสินค้า ซึ่งตามปกติบริการประเภทนี้จะรวดเร็วกว่าการขนส่งทางเรือ และประหยัดกว่าการขนส่งโดยเครื่องบิน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สำหรับลูกค้าในอุตสาหกรรมการดูแลสุขภาพ”​ คุณศรัณย์กล่าว “บริการ Asia LANDbridge ของ DB Schenker เป็นบริการแบบครบวงจรที่มอบบริการขนส่งตรงจากผู้ส่งถึงมือผู้รับแบบ Door-to-Door ที่ราบรื่นไร้อุปสรรค และรับประกันความตรงต่อเวลา ผ่านเครือข่ายการปฏิบัติการที่ปลอดภัยและเชื่อถือได้ ซึ่งรวมไปถึงการดำเนินพิธีการด้านศุลกากรในการผ่านด่านพรมแดนทางบกทั้งหมดด้วย”

“นอกจากนี้ บริการของเรายังเป็นทางเลือกที่มีความยืดหยุ่นมากกว่า โดยเราสามารถปรับเส้นทางการขนส่งระหว่างประเทศหรือภูมิภาคให้เหมาะสมกับความต้องการของลูกค้าได้ ต่างจากการขนส่งทางเรือหรือเครื่องบินที่คุณจะถูกจำกัดด้วยตารางกำหนดการของผู้ให้บริการ ในขณะที่บริการรถบรรทุกของเราคุณจะมีอิสระมากกว่าทั้งในด้านเส้นทางการขนส่งและกำหนดเวลาออกเดินทาง” คุณศรัณย์ ขยายความเพิ่มเติม

จุดเด่นที่สำคัญอีกประการในบริการขนส่งข้ามพรมแดนของ DB Schenker คือ ตัวเลือกการขนส่งต่อเนื่องรถไฟ-รถบรรทุก ซึ่งสามารถเชื่อมต่อลูกค้าชาวไทยสู่ปลายทางในยุโรปผ่านศูนย์กลางการขนส่งในประเทศจีน ยิ่งไปกว่านั้น เพื่อให้สนองตอบต่อเงื่อนไขด้านการขนส่งข้ามพรมแดนที่เข้มงวด ทั้งในด้านคุณภาพ ความปลอดภัย และความโปร่งใส DB Schenker จึงใช้กองตู้สินค้าของตัวเองทั้งหมด ซึ่งทุกตู้มีการติดตั้งอุปกรณ์ติดตามระบบ GPS

“สำหรับลูกค้าภายในประเทศ เรามีบริการขนส่งแบบ Door-to-Door ภายใต้อัตราค่าบริการที่สามารถแข่งขันได้อย่างสูงในตลาด นอกจากนี้ เรายังมีการพัฒนาและปรับปรุงขีดความสามารถด้านแพลตฟอร์มโลจิสติกส์อีคอมเมิร์ซ เพื่อมอบอีกระดับของความโปร่งใส รวมไปถึงการใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยในการให้บริการขนส่งช่วง Last Mile” คุณศรัณย์ กล่าว “จนถึงวันนี้ ประเทศไทยยังคงเป็นระบบเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับสองของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีทั้งฐานการผลิตและการส่งออกขนาดใหญ่ ซึ่งรวมไปถึงแบรนด์สินค้าโภคภัณฑ์ชั้นนำอย่าง P&G และ Unilever ที่มีโรงงานขนาดใหญ่อยู่ในประเทศไทยด้วย ส่งผลให้มีความต้องการบริการขนส่งภายในประเทศในระดับสูง ไม่ว่าจะเป็นการขนส่งจากโรงงานผลิตไปยังท่าเรือ หรือในเส้นทางกลับกัน”

Lean Logistics and 4PL

ปฏิบัติการด้านซัพพลายเชนโดยภาพรวมของ DB Schenker ส่งผลให้บริษัทฯ อยู่ในตำแหน่งที่ยอดเยี่ยมในการมอบคำปรึกษาให้กับลูกค้าสำหรับการปรับปรุงประสิทธิภาพการปฏิบัติการ ซึ่งหมายความว่า DB Schenker ไม่เพียงช่วยยกระดับความคล่องตัวให้กับปฏิบัติการของลูกค้า แต่ยังให้การสนับสนุนด้านแผนกลยุทธ์ในการยกระดับการบริหารจัดการสินค้าคงคลัง การลดปริมาณการเก็บรักษาสินค้าคงคลัง รวมไปถึงการปรับปรุง ปรับแต่ง หรือแปลงสภาพสินค้าให้เหมาะสมกับบริบทของตลาดปลายทางด้วย

“การผลักดันนวัตกรรมโดยผู้ให้บริการโลจิสติกส์เป็นเรื่องสำคัญ และหนึ่งในวิธีการที่ผ่านการพิสูจน์มาแล้วในการยกระดับองค์กร ก็คือกระบวนการด้านซัพพลายเชนที่เรียกว่า ‘โลจิสติกส์แบบลีน (Lean logistics)’ ซึ่งก็คือ กระบวนการในการระบุและขจัดกิจกรรมที่ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ออกจากซัพพลายเชน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความรวดเร็วในการหมุนเวียนของผลิตภัณฑ์ และเพื่อให้บรรลุเป้าหมายนี้ ธุรกิจต่างๆ ก็จำเป็นต้องปรับกระบวนทัศน์เข้าสู่แนวคิดแบบลีนด้วยเช่นกัน” คุณศรันย์ กล่าว

ทั้งนี้ ด้วยความช่วยเหลือจาก DB Schenker ลูกค้าจะได้รับผลประโยชน์ต่างๆ ซึ่งประกอบด้วย คุณภาพการบริการหรือกระบวนการผลิตที่ดียิ่งขึ้น การลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม และความพึงพอใจของลูกค้า

Integrated & Value-added Services

ทั้งนี้ DB Schenker สามารถมอบโซลูชันการบริการที่ออกแบบมาเพื่อลูกค้าแต่ละรายเป็นการเฉพาะ ผ่านการสานสัมพันธ์ในฐานะพันธมิตรอย่างใกล้ชิด และการสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจร่วมกับลูกค้า และนี่คือสิ่งที่ทำให้ DB Schenker แตกต่างจากผู้ให้บริการโลจิสติกส์รายอื่นๆ ยิ่งไปกว่านี้ ชื่อเสียงของบริษัทฯ​ ในด้านคุณภาพ ความน่าเชื่อถือ และนวัตกรรม ยังถูกนำไปใช้ในการพัฒนาบริการด้านการบริหารจัดการคลังสินค้าและการขนส่งสินค้าที่หลากหลายและครอบคลุมอีกด้วย

สำหรับการให้บริการในประเทศไทยของ DB Schenker ทั้ง Mr. Siddique และคุณศรันย์ ต่างร่วมแรงร่วมใจกับทีมบุคลากรทุกคนทุกฝ่าย เพื่อใช้ทักษะและประสบการณ์ในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์และการขนส่งสินค้าอย่างเต็มที่ เพื่อส่งมอบแพ็คเกจโซลูชันด้านซัพพลายเชนที่ครอบคลุมและครบถ้วนสมบูรณ์ในที่เดียวให้แก่ลูกค้า รวมไปถึงบริการด้านอื่นๆ ของ DB Schenker ซึ่งครอบคลุมทุกกระบวนการในห่วงโซ่คุณค่า เริ่มตั้งแต่การจัดซื้อจัดจ้าง การผลิต ไปจนถึงการกระจายสินค้าและบริการหลังการขายในที่สุด

อัพเดตข่าวสารและบทความที่น่าสนใจในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ก่อนใคร ผ่าน Line Official Account @Logistics Mananger เพียงเพิ่มเราเป็นเพื่อน @Logistics Manager หรือคลิกที่นี่

บทความก่อนหน้านี้CULINES เปิดตัวแพลตฟอร์มออกของขับเคลื่อนด้วยบล็อกเชน
บทความถัดไปCMA CGM ขยายขนาดพื้นที่ระวางสินค้าสู่ท่าเรือ Yokohama เดินหน้าปฏิบัติการด้วยเรือขนาดใหญ่ขึ้น
Thanathas Akkhachotkawanich
Bangkok grew, Australian aged, Silicon Valley matured, this aspiring writer adds flavor to our team with his assuring smile and quill-tip talents.