ไฮไลท์ดัชนี Agility Emerging Markets Logistics Index ประจำปี 2020

0
1862

ดัชนี Agility Emerging Markets Logistics Index ประจำปีที่ 11 ของ Agility Logistics ผู้ให้บริการโลจิสติชั้นนำ ซึ่งเป็นดัชนีวัดศักยภาพการแข่งขัน ประเมินจากจุดแข็งด้านระบบโลจิสติกส์และคุณสมบัติพื้นฐานในการทำธุรกิจเผยว่า จีนและอินเดียอยู่ในอันดับสูงสุดในการจัดอันดับปี 2020 โดยประเมินจากขนาดและศักยภาพที่แข็งแกร่งในฐานะตลาดโลจิสติกส์ทั้งระหว่างประเทศและภายในประเทศ แต่ในด้านคุณสมบัติพื้นฐานในการทำธุรกิจมีอันดับต่ำกว่าที่มีขนาดเล็กกว่า โดยประเมินจากการกำกับดูแล ภาวะสินเชื่อและหนี้สิน การบังคับใช้สัญญา การป้องกันการทุจริตคอร์รัปชัน เสถียรภาพของราคา และการเข้าถึงตลาด โดยในด้านดังกล่าว จีนอยู่ในอันดับ 8 และอินเดียอยู่ในอันดับ 18

โดยดัชนีฯ ยังระบุอีกว่า อินเดียเป็นตลาดที่มีศักยภาพสูงสุดมากกว่าจีน ซึ่งเป็นตัวเลือกอันดับที่สอง ส่วนในด้านเงื่อนไขการทำธุรกิจ หลายประเทศมีการพัฒนาและถดถอยอย่างก้าวกระโดด อาทิเช่น อียิปต์ขึ้นมาอยู่ในอันดับที่ 17 (สูงขึ้น 10 อันดับ) ยูเครนขึ้นมาอยู่ในอันดับที่ 27 (สูงขึ้น 10 อันดับ) ขณะที่กานาตกลงไปอยู่ในอันดับที่ 32 (ลดลง 13 อันดับ) และอิหร่านตกลงไปอยู่ในอันดับที่ 38 (ลดลง 12 อันดับ)

ประเทศอียิปต์ แม้จะมีเหตุการณ์ไม่สงบช่วงสั้นๆ ในปี 2019 แต่ก็มีการพัฒนาอย่างยิ่งยวดในดัชนีทุกด้าน ในดัชนีโดยรวม อียิปต์ขึ้นมาหกอันดับมาอยู่ในอันดับที่ 20 นอกจากนี้ยังขึ้นมาอยู่ในอันดับที่ 20 ในด้านคุณสมบัติพื้นฐานในการทำธุรกิจ (สูงกว่าปีที่แล้ว 10 อันดับ) ขึ้นมาอยู่ในอันดับที่ 13 ในด้านแนวโน้มโอกาสภายในประเทศ (สูงกว่าปีที่แล้ว 6 อันดับ) และขึ้นมาอยู่ในอันดับที่ 23 ในด้านแนวโน้มโอกาสระหว่างประเทศ (สูงกว่าปีที่แล้ว 5 อันดับ)

ผลสำรวจยังระบุถึงปัจจัยหลักสามประการที่กีดกันธุรกิจขนาดเล็กจากการค้าโลก ได้แก่ ระบบบริหารการค้าแบบราชการ (17%) ความไม่มีเสถียรภาพของรัฐบาล/ชายแดน (14%) และขาดความสามารถในการแข่งกับคู่แข่งรายใหญ่ (14%)

แม้ว่าจะมีแนวโน้มการภาวะเศรษฐกิจถดถอย ตลาดเกิดใหม่ก็ยังคงขยายตัวราว 3.7 เปอร์เซ็นต์  ในปี 2019 โดย IMF คาดการณ์การเติบโตที่ 4.4 เปอร์เซ็นต์  ในปี 2020 โดยมีปัจจัยหนุนประกอบด้วย การปฏิรูประบบและกระบวนการศุลกากรให้ทันสมัย (23%) บทบาทที่เพิ่มขึ้นของอินเทอร์เน็ต (18%) การปฏิรูประบบผู้ให้บริการโลจิสติกส์ให้ทันสมัย เช่น WMS, TMS และอื่นๆ (16%)  และการใช้งานและปฏิรูประบบชำระเงินออนไลน์ให้ทันสมัย (15%)

5 อันดับมหานครตลาดเกิดใหม่ที่เป็นศูนย์กลางด้านโลจิสติกส์ ได้แก่ เซี่ยงไฮ้ นิวเดลี เซาเปาโล จาการ์ตา และเม็กซิโกซิตี โดย ‘มหานคร’ ในที่นี้หมายถึงเขตเมืองที่มีประชากรตั้งแต่ 10 ล้านคนขึ้นไป ซึ่งต้องการระบบโลจิสติกส์ขนาดใหญ่เพื่อรองรับความต้องการภายในประเทศและการมีบทบาททางการค้า

บริการคลังสินค้าพร้อมจัดส่งสำหรับอีคอมเมิร์ซ (E-commerce fulfillment) เป็นบริการที่มีแนวโน้มการเติบโตสูงสุด เช่น บริการขนส่งระยะ Last-mile (last-mile delivery) ภายในประเทศ และการส่งพัสดุด่วนระหว่างประเทศ

ส่วนประเทศที่มีศักยภาพการเป็นตลาดโลจิสติกส์ต่ำสุดในปี 2020 ได้แก่ ซีเรีย อิหร่าน เวเนซุเอลา อิรัก และลิเบีย

อัพเดตข่าวสารและบทความที่น่าสนใจในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ก่อนใคร ผ่าน Line Official Account @Logistics Mananger เพียงเพิ่มเราเป็นเพื่อน @Logistics Manager หรือคลิกที่นี่

บทความก่อนหน้านี้Agility ชี้ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นผู้นำด้านโลจิสติกส์ในตลาดเกิดใหม่
บทความถัดไปOOCL สั่งประกอบเรือขนาด 23,000 ทีอียู จำนวนห้าลำ