ในแต่ละวัน ตู้สินค้าจำนวนมหาศาลถูกขนส่งผ่านเข้า-ออกท่าเรือ เพื่อกระจายไปยังภูมิภาคต่างๆ ทั่วโลก ขณะเดียวกัน เมื่อปริมาณตู้สินค้าเพิ่มขึ้น ต้นทุนในการบริหารจัดการก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน ทั้งในด้านระยะเวลา และค่าใช้จ่าย ด้วยเหตุนี้การนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยเข้ามาประยุกต์เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพในการทำงาน และศักยภาพในการแข่งขันทางธุรกิจนับเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างมาก  

อย่างไรก็ตาม เทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพสำหรับอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ส่วนใหญ่มักได้รับการพัฒนาโดยบริษัทจากต่างประเทศ ทำให้เกิดต้นทุนในการนำเข้า อีกทั้งการที่บริษัทผู้พัฒนาอยู่ในต่างประเทศ อาจทำให้การสนับสนุนและปรับปรุงระบบให้เหมาะสมกับการใช้งานของผู้ประกอบการแต่ละรายนั้นเป็นไปได้ยาก รวมทั้งใช้เวลาและมีต้นทุนที่สูงขึ้น

ในวันนี้ นิตยสาร LM ของเราได้มีโอกาสพูดคุยกับ คุณปิยะวัฒน์ แสงประเสริฐกฤด ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายธุรกิจและการตลาด บริษัท Verily Vision (เวริลี วิชั่น) เกี่ยวกับเบื้องหลังการก่อตั้งบริษัทเทคโนโลยีเพื่อสนับสนุนอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ไทยและอาเซียน รวมทั้งเรื่องราวความสำเร็จในโครงการติดตั้งระบบ Container Truck Gate Automation เพื่อยกระดับการปฏิบัติการ ณ ประตูตรวจสอบตู้สินค้าของท่าเรือสหไทย

Who is Verily Vision

Verily Vision คือบริษัท Digital Logistics Solution ของไทยที่มีความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี Deep Learning Artificial Intelligence (AI), Computer Vision และ Internet of Things ซึ่งก่อตั้งขึ้นในปี 2016 โดยมีจุดมุ่งหมายคือ การเป็นบริษัทเทคโนโลยีสัญชาติไทย ผู้พัฒนาเทคโนโลยีสำหรับอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ที่มีคุณภาพและมาตรฐานการทำงานระดับสากล เพื่อช่วยขับเคลื่อนให้ผู้ประกอบการโลจิสติกส์ไทยและอาเซียนสามารถเปลี่ยนผ่านเข้าสู่ยุคดิจิทัลได้อย่างมีประสิทธิภาพ คุณปิยะวัฒน์ กล่าวว่า

“ด้วยตำแหน่งที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ของประเทศไทยที่อยู่ในใจกลางของอาเซียน เราเล็งเห็นได้ว่าอุตสาหกรรมโลจิสติกส์มีความสำคัญต่อการอำนวยความสะดวกทางการค้าและขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยเป็นอย่างมาก”

คุณปิยะวัฒน์ แสงประเสริฐกฤด ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายธุรกิจและการตลาด บริษัท Verily Vision

“และแม้อุตสาหกรรมโลจิสติกส์จะมีความต้องการทางด้านนวัตกรรมที่สูงเพื่อพัฒนาขีดความสามารถทางการแข่งขัน แต่ในปัจจุบันเรายังขาดการสนับสนุนด้านเทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพจากการพัฒนาในประเทศอยู่มาก ทำให้ต้องมีการนำเข้าจากต่างประเทศ”

“ซึ่งการนำเข้าเทคโนโลยีอาจมีช่องว่างในด้านการสนับสนุนการใช้งาน การปรับให้เหมาะสมกับรูปแบบลักษณะงาน ปัญหาความต้องการและพฤติกรรมของผู้ใช้งานในประเทศ ทำให้ยังไม่สามารถใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีได้อย่างเต็มประสิทธิภาพนัก”

“พวกเราในฐานะที่เป็นบริษัทของคนไทย ที่มีประสบการณ์ในการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีเข้ากับกระบวนการทำงานของธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็น ท่าเรือ คลังสินค้า จนถึงโรงงานอุตสาหกรรม จึงมีความมุ่งมั่นที่จะเติมเต็มช่องว่างดังกล่าว โดยเราทำงานอย่างใกล้ชิดร่วมกับผู้ประกอบการแต่ละราย ตั้งแต่การเริ่มวิเคราะห์ปัญหา ออกแบบขั้นตอนการปฏิบัติงานเพื่อให้การทำงานร่วมกับเทคโนโลยีเกิดขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด รวมถึงการติดตั้งอุปกรณ์ และการสนับสนุนแก้ไขปัญหา เพื่อให้ผู้ประกอบการได้ผลลั พธ์จากการใช้เทคโนโลยีอย่างคุ้มค่า มีประสิทธิภาพ และวัดผลได้”

“และอีกหนึ่งความตั้งใจของเราคือการพิสูจน์ให้เห็นว่า บริษัทเทคโนโลยีไทย ก็สามารถช่วยพัฒนาขับเคลื่อนอุตสาหรรมโลจิสติกส์ด้วยเทคโนโลยีที่มีคุณภาพและมาตรฐานในการทำงานทัดเทียมกับบริษัทชั้นนำ”

Container Truck Gate Automation Project with Sahathai Terminal

นับตั้งแต่ท่าเรือสหไทยก่อตั้งขึ้นในปี 2008 จุดมุ่งหมายหลักของท่าเรือแห่งนี้คือเป็นผู้นำในการให้บริการโลจิสติกส์แบบครบวงจรด้วยนวัตกรรมและโซลูชั่นที่สามารถตอบโจทย์ลูกค้าได้อย่างแท้จริง เพื่อช่วยเพิ่มศักยภาพการแข่งขันของผู้ประกอบการไทยในตลาดโลก ปัจจุบันท่าเรือสหไทยมีปริมาณตู้สินค้าผ่านท่าเรือมากกว่า 500,000 ทีอียูต่อปี

ท่าเรือสหไทยจึงมองหาเทคโนโลยีที่จะเข้ามาช่วยในการบริหารจัดการ เพิ่มศักยภาพในการแข่งขัน และมอบบริการที่ดีที่สุดให้กับลูกค้า โดยหลังจากการหารือเกี่ยวกับความต้องการในการพัฒนาประสิทธิภาพการทำงานร่วมกับทีมงาน เวริลี วิชั่น ทางผู้บริหารของท่าเรือ ฯ ได้เล็งเห็นถึงศักยภาพ และมอบความไว้วางใจในการดำเนินโครงการติดตั้งระบบ Container Truck Gate Automation ณ บริเวณประตูทางเข้าท่าเรือ

ระบบ Container Truck Gate Automation คือการนำเทคโนโลยีประมวลผลภาพ Deep Learning Computer Vision (OCR) เพื่อใช้ในการตรวจสอบและบันทึกหมายเลขตู้สินค้าและทะเบียนรถบรรทุกแบบอัตโนมัติ ผ่านกล้อง CCTV ที่ติดตั้งอยู่บริเวณประตูทางเข้าท่าเรือ

โดยก่อนหน้านี้ การปฏิบัติการ ณ ประตูทางเข้า จะดำเนินการโดยเจ้าหน้าที่ประจำของท่าเรือ กล่าวคือเมื่อรถบรรทุกตู้สินค้าเดินทางเข้ามาถึงประตูทางเข้า เจ้าหน้าที่ภาคสนามจดข้อมูลของรถบรรทุก หมายเลขตู้สินค้า รวมถึงถ่ายภาพตู้สินค้าด้วยตนเอง หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ภาคสนามจะนำข้อมูลที่ได้มาส่งมอบให้กับเจ้าหน้าที่ในห้องปฏิบัติการ (Booth Gate) เพื่อกรอกข้อมูลลงระบบปฏิบัติการภายในท่าเรือ (TOS) และระบบภายนอก เช่น ระบบ E-Matching ของกรมศุลกากร พร้อมตรวจสอบว่าข้อมูลของตู้สินค้าตรงกับฐานข้อมูลในระบบหรือไม่ ซึ่งกระบวนการทำงานดังกล่าวต้องใช้ระยะเวลา ความแม่นยำและละเอียดรอบคอบของบุคลากรในการปฏิบัติการค่อนข้างสูง การนำระบบ Container Truck Gate Automation เข้ามาใช้งานจึงเป็นทางเลือกในการยกระดับปฏิบัติการในส่วนดังกล่าวให้มีประสิทธิภาพและความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น

Installation of Container Truck Gate Automation

ในการนำระบบ Container Truck Gate Automation มาใช้งานจริงทีมเวริลี วิชั่น ได้ติดตั้งอุปกรณ์และซอฟต์แวร์ที่จำเป็นเพื่อใช้ในกระบวนการตรวจสอบตู้สินค้าและข้อมูล ณ บริเวณทางเข้าท่าเรือ โดยประกอบไปด้วย

  • ซอฟต์แวร์อ่านหมายเลขตู้สินค้าอัตโนมัติ (Container Number Recognition Module)
  • ซอฟต์แวร์อ่านหมายเลขทะเบียนรถบรรทุกอัตโนมัติ พร้อมรองรับการอ่านอักขระไทย (Truck License Plate Recognition Module)
  • ซอฟต์แวร์เก็บภาพตู้สินค้าอัตโนมัติ (Container Image Capture Module)
  • ซอฟต์แวร์เก็บภาพทะเบียนรถบรรทุกอัตโนมัติ (Truck License Plate Capture Module)
  • ระบบสังเกตการณ์และรายงานภาพรวมบริเวณประตูตรวจสอบ (Booth gate Monitoring System and Report)
  • ระบบหน้าจอแสดงผลประจำช่องทาง (In-Lane Display Screen System)
  • ระบบเชื่อมโยงระบบปฏิบัติการภายในท่าเรือ (System Integration with TOS)
  • กล้อง CCTV ที่บริเวณช่องทางเดินรถ ช่องทางละห้าตัว

โดยอุปกรณ์และซอฟต์แวร์ทั้งหมด ถูกติดตั้งลงบนโครงสร้างเดิมของท่าเรือสหไทย โดยไม่มีการก่อสร้างเพิ่มเติม ทำให้กระบวนการติดตั้งเป็นไปอย่างรวดเร็ว และสามารถลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นลงไปได้เป็นจำนวนมาก

เมื่อกระบวนการติดตั้งขั้นแรกเสร็จสิ้น อุปกรณ์และซอฟต์แวร์ทั้งหมดก็ได้รับการปรับแต่ง (Optimal Calibration) และวัดผลการทำงานจริงจากวิศวกรผู้เชี่ยวชาญและทีมสารสนเทศของท่าเรือฯ เพื่อให้ระบบดัวกล่าวทำงานด้วยประสิทธิภาพสูงสุดในสภาพแวดล้อมจริงของท่าเรือสหไทย

The New Automation

เมื่อติดตั้งระบบ Container Truck Gate Automation ทันทีที่รถบรรทุกตู้สินค้าเดินทางเข้ามายังบริเวณประตูตรวจสอบตู้สินค้า กล้อง CCTV จะเก็บภาพทุกมุมของรถบรรทุกเพื่อบันทึกสภาพของตู้สินค้า จากนั้นระบบจะประมวลผลและเก็บข้อมูลหมายเลขตู้สินค้าและทะเบียนรถลงในฐานข้อมูล ที่เชื่อมต่อกับระบบ TOS เพื่อทำการตรวจสอบ ทำให้เจ้าหน้าที่ภาคสนามไม่จำเป็นต้องจดบันทึกด้วยมือ ช่วยลดระยะเวลาการตรวจสอบ รวมทั้งยังช่วยให้ท่าเรือสหไทยบรรลุ KPI ในการลดระยะเวลาการให้บริการโดยรวมสำหรับรถบรรทุกตู้สินค้าหนึ่งคัน (Truck turnaround time)​ ลงเหลือ 30 นาที ต่อคัน

นอกจากนี้ ระบบยังช่วยยกระดับความปลอดภัย จากการที่มีระบบสังเกตการณ์และรายงานการทำงานของบริเวณประตูทางเข้าตลอด 24 ชั่วโมง และเป็นส่วนหนึ่งของรากฐานทางเทคโนโลยีที่สำคัญ ในการทำให้ท่าเรือสหไทยมีความพร้อมในการพัฒนาเป็นท่าเรือดิจิทัล ตามยุทธศาสตร์ขององค์กรที่จะเป็นผู้ให้บริการโลจิสติกส์ครบวงจรในปี 2025

คุณทวีชัย ครุจิตร ผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สหไทย เทอร์มินัล จำกัด (มหาชน)

คุณทวีชัย ครุจิตร ผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สหไทย เทอร์มินัล จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “เรากำหนดเป้าหมายสองอย่างในการร่วมมือกับ Verily Vision หนึ่งคือการสร้างระบบที่มีประสิทธิภาพและความปลอดภัยให้แก่ลูกค้าของท่าเรือสหไทย สองคือการร่วมมือกับบริษัทสตาร์ทอัพสัญชาติไทย เพื่อสนับสนุนผู้มีความรู้ความสามารถในประเทศ ให้เกิดการพัฒนานวัตกรรมต่าง ๆ”

“และจากการร่วมมือที่ผ่านมา เวริลี วิชั่น ได้พิสูจน์แล้วกับการเป็นพันธมิตรทางธุรกิจที่ยอดเยี่ยม และระบบ Container Truck Gate Automation คือเทคโนโลยีที่ตอบโจทย์ สำหรับการยกระดับการปฏิบัติการในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์”


The Right Partner for Digital Transformation

การเปลี่ยนผ่านเข้าสู่ยุคดิจิทัลนับเป็นช่วงเวลาที่สำคัญของผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ และการเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันด้วยเทคโนโลยีได้กลายเป็นสิ่งจำเป็น ทั้งในด้านประสิทธิภาพในการทำงาน การบริหารต้นทุน และมาตรฐานความปลอดภัย

ด้วยประสบการณ์ในการร่วมงานกับธุรกิจในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ที่หลากหลาย ประกอบกับความเชี่ยวชาญทางด้านเทคโนโลยี เวริลี วิชั่น มีความมุ่งมั่นที่จะทำให้ช่วงเวลาการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัลเกิดขึ้นอย่างราบรื่น ภายใต้โจทย์ความต้องการและสภาพแวดล้อมการทำงานที่หลากหลาย เพราะ เวริลี วิชั่น ต้องการมอบบริการและผลลัพธ์การทำงานที่สามารถวัดผลได้ ไม่เพียงแต่เทคโนโลยีที่ทันสมัย

อ่านรายละเอียดกรณีศึกษาฉบับเต็มของโครงการ Container Truck Gate Automation ได้ที่ www.verilyvision.com  หรือติดต่อ piyawat.s@verilyvision.com


อัพเดตข่าวสารและบทความที่น่าสนใจในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ก่อนใคร ผ่าน Line Official Account @Logistics Mananger เพียงเพิ่มเราเป็นเพื่อน @Logistics Manager หรือคลิกที่นี่

บทความก่อนหน้านี้HMM, HHI และ Jotun จับมือใช้หุ่นยนต์ HSS ทำความสะอาดกองเรือใหม่
บทความถัดไปSITC จัดพิธีขนานนามเรือ SITC SHEKOU
Pichanon Paoumnuaywit
tech and history geek, who enjoys hunting and photographing dark skies and milky way