กลุ่มสายการเดินเรือ T.S. Lines Group ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม ปี 2001 โดยมุ่งให้บริการในตลาด Intra-Asia ภายใต้สโลแกน ‘We Deliver Service in Asia’ ซึ่งในขณะนั้นบริษัทฯ ยังคงใช้ตราสัญลักษณ์ดั้งเดิมเป็นเพียงกราฟฟิกตัวอักษร T.S. หลังจากวันนั้น บริษัทฯ ได้เริ่มเดินหน้าพัฒนาธุรกิจอย่างต่อเนื่อง จนมีการเติบโตอย่างมั่นคงและรวดเร็ว และภายหลังได้มีการปรับเปลี่ยนตราสัญลักษณ์มาเป็นรูปลูกโลกสีฟ้า พร้อมลวดลายเส้นรุ้งเส้นแวง และตัวอักษร T.S. สีขาวอย่างในปัจจุบัน ซึ่งสื่อความหมายถึงการขยายตัวและการเติบโตอย่างไม่หยุดยั้ง และด้วยวิสัยทัศน์และการนำของผู้บริหารสูงสุด รวมไปถึงความทุ่มเทของเหล่าพนักงาน T.S. Lines ที่ล้วนส่งผลให้บริษัทฯ เติบโตขึ้นเป็นหนึ่งในสายการเดินเรือชั้นนำได้อย่างเต็มภาคภูมิ

Mr. Jones Huang ตัวแทนผู้บริหาร T.S. Line Thailand ได้กล่าวในโอกาสพิเศษสำหรับการครบรอบ 20 ปีของบริษัทว่า “ประเทศไทยถือเป็นหนึ่งในตลาดที่สำคัญที่สุดของ T.S. Line ด้วยขนาดเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับที่สองของอาเซียน เราจึงทุ่มเทให้ความสำคัญกับประเทศไทย เพื่อให้มั่นใจว่าลูกค้าชาวไทยจะได้รับบริการต่างๆ ที่หลากหลายและครอบคลุม เพื่อตอบสนองทุกความต้องการด้านการขนส่งของลูกค้า”

A period of Significant Growth

ปี 2021 เป็นช่วงเวลาที่อุตสาหกรรมการขนส่งสินค้าทางทะเลมีการขยายตัวอย่างมาก อีกทั้งยังเป็นปีที่ 20 ของการเปิดดำเนินกิจการของ T.S. Lines ด้วย ซึ่งก็ถือเป็นโอกาสอันสำคัญในการตัดสินใจขยายธุรกิจ โดยอาศัยการดำเนินการที่รวดเร็วและมีความยืดหยุ่นในการสั่งประกอบและจัดซื้อฝูงเรือใหม่ๆ เพิ่มเติม นอกจากนี้ สายการเดินเรือฯ ยังมีการติดตามสถานการณ์ของตลาดอย่างใกล้ชิดและคาดการณ์ภาวะการขาดแคลนตู้สินค้าได้อย่างแม่นยำ จึงมีการขยายกองตู้สินค้าตั้งแต่ในไตรมาสที่สี่ของปี 2020 และบรรลุสถิติผลกำไรต่อปีสูงสุดถึงหกพันล้านดอลลาร์ไต้หวันใหม่  นอกจากนี้ แนวโน้มการเติบโตของผลกำไรในไตรมาสแรกของปีนี้ยังส่งสัญญาณที่ดียิ่งกว่าในปีที่ผ่านมา โดยบรรลุเป้าหมายผลกำไรประจำปี 2021 ที่ 10,000 ล้านดอลลาร์ไต้หวันใหม่  ตั้งแต่ในช่วงครึ่งแรกของปี ด้วยเหตุนี้จึงได้มีการปรับเป้าหมายผลกำไรสุทธิประจำปีเป็น 17,000 ล้านดอลลาร์ไต้หวันใหม่  โดยมีผลกำไรต่อหุ้นเท่ากับ 43 ดอลลาร์ไต้หวันใหม่  อีกทั้งยังตั้งเป้าปริมาณสินค้าประจำปีเอาไว้ที่ 1.9 ล้านทีอียู คิดเป็นการเติบโตแบบปีต่อปี 11 เปอร์เซ็นต์ และยอดรายรับที่ 46,000 ล้านดอลลาร์ไต้หวันใหม่  หรือคิดเป็นการขยายตัวที่สูงถึง 70 เปอร์เซ็นต์

Mr. Huang กล่าวว่า “พวกเราพอใจกับผลการดำเนินงานในช่วงสองสามไตรมาสที่ผ่านมาอย่างมาก การร่วมมือกับพันธมิตรที่ยอดเยี่ยมในประเทศไทยส่งผลต่อความสำเร็จอันยอดเยี่ยมของเรา และเราหวังว่าจะได้สานสัมพันธ์ใหม่ๆ รวมทั้งขยายธุรกิจในประเทศไทยเพิ่มมากขึ้นในปีต่อๆ ไป”

Mr. Jones Huang ตัวแทนผู้บริหาร สายการเดินเรือ T.S. Lines Thailand

T.S. Lines ได้ตั้งเป้าขยายสัดส่วนความเป็นเจ้าของกองเรือให้เพิ่มขึ้นเป็น 50 เปอร์เซ็นต์ มาตั้งแต่เมื่อสองปีที่ผ่านมา โดยในปี 2020 มีการจัดซื้อเรือขนาด 4,300 – 5,600 ทีอียู จำนวนห้าลำ ขนาด 2,500 ทีอียู หนึ่งลำ และขนาด 1,800 ทีอียู สองลำ  เพื่อนำเข้าร่วมปฏิบัติการในกองเรือ

ถึงแม้ว่าจะเป็นการลงทุนด้วยเม็ดเงินกว่า 100 ล้านเหรียญสหรัฐ แต่ก็ยังถือว่าเป็นการจัดซื้อเรือในราคาที่ไม่ไม่สูงเกินไป และยังส่งผลให้ต้นทุนการปฏิบัติการต่ำลง เมื่อเทียบกับการทำสัญญาเช่าเหมาลำเรือ โดยในปี 2021 นี้ ทางสายการเดินเรือฯ ยังได้รับมอบเรือขนาด 1,000 ทีอียู และ 1,800 ทีอียู ในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา รวมไปถึงเรือขนาด 6,300 ทีอียู อีกหนึ่งลำที่มีกำหนดส่งมอบในไตรมาสที่สี่ และโดยอิงจากสภาพตลาดการเช่าเหมาลำเรือในปัจจุบัน และเรือตามคำสั่งประกอบที่จะได้รับมอบในระหว่างปี 2023 – 2024 แผนยุทธศาสตร์ของสายการเดินเรือฯ คือการลดต้นทุนการเช่าเหมาลำเรือ และเฟ้นหาเรือที่ดีที่สุดที่มีคุณสมบัติสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ด้านการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกขององค์การทางทะเลระหว่างประเทศ (IMO GHG) ในปี 2023 เพื่อดำเนินการขยายกองเรืออย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ เพื่อให้เป็นไปตามเงื่อนไขขององค์การทางทะเลระหว่างประเทศ (IMO) ดัชนีเรือที่มีการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ (EEXI) และตัวบ่งชี้ระดับความเข้มข้นของคาร์บอน (CII) T.S. Lines ได้นำฝูงเรือดังกล่าวข้างต้นมาปฏิบัติการในเครือข่ายการบริการตั้งแต่ปี 2019 รวมทั้งมีการสั่งประกอบเรือขนาด 2,700 ทีอียู เพิ่มอีกสองลำ จาก Wenchong Shipyard ซึ่งจะนำไปปฏิบัติการในเส้นทางการบริการเชื่อมไปยังออสเตรเลียในเดือนกรกฏาคม และกันยายนตามลำดับ

นอกจากนี้ สายการเดินเรือฯ ยังได้ยืนยันคำสั่งประกอบเรือขนาด 1,900 ทีอียู อีกสี่ลำ กับ Wenchong Shipyard ซึ่งคาดว่าจะเริ่มทำการส่งมอบได้หลังสิ้นปี 2022 และยังได้ทุ่มงบประมาณอีก 300 ล้านเหรียญสหรัฐ สั่งประกอบเรือใหม่ขนาด 7,000 ทีอียู จำนวนสี่ลำ กับ Shanghai Waigaoqiao Shipbuilding Co. Ltd. (SWS) ซึ่งเป็นกองเรือขนส่งสินค้ารุ่นใหม่ที่มีคุณสมบัติตรงตามข้อกำหนดด้านสิ่งแวดล้อมล่าสุด ทั้งนี้เพื่อให้เป็นไปตามแผนการอัพเกรดกองเรือในการให้บริการร่วม โดยมีการจัดพิธีลงนามผ่านทางออนไลน์เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคมที่ผ่านมา และถือเป็นส่วนหนึ่งของการเฉลิมฉลองครบรอบ 20 ปี ของบริษัทด้วย เรือใหม่ทั้งสองลำมีกำหนดส่งมอบในระหว่างปี 2023 – 2024 และจะนำไปให้บริการในเส้นทางเชื่อมอินเดียและปากีสถาน

Steadfast Leadership through Tough Tides

สถานการณ์การระบาดของโรค COVID-19 ในปีนี้ยังคงมีความรุนแรง รวมไปถึงภาวะความหนาแน่นในท่าเรือ ระยะเวลาการหมุนเวียนตู้สินค้าที่ล่าช้าและกินเวลานานกว่าปกติ รวมไปถึงปัญหาด้านการบริหารจัดการกองตู้สินค้า อย่างไรก็ตาม ประเด็นเหล่านี้ไม่ได้อยู่นอกเหนือการคาดการณ์ของ T.S. Lines ที่ได้ติดตามความเป็นไปของสภาพอุตสาหกรรมทั่วโลกมาโดยตลอด และได้ลงทุนขยายกองตู้สินค้าด้วยงบประมาณกว่า 65 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยเมื่อเร็วๆ นี้ T.S. Lines ได้รับส่งมอบตู้สินค้าใหม่รวม 11,000 ทีอียู ตามด้วยกองตู้สินค้าอีก 10,100 ทีอียู ที่กำลังจะได้รับส่งมอบในเดือนกันยายนที่จะถึงนี้ ส่งผลให้ปริมาณกองตู้สินค้าทั้งหมดที่เป็นของสายการเดินเรือเองเพิ่มขึ้นเป็น 226,000 ทีอียู ขณะเดียวกัน T.S. Lines ยังได้มีการวางแผนขยายสัดส่วนตู้สินค้าของสายการเดินเรือ ลงในแผนระยะสั้นเพื่อลดต้นทุนการปฏิบัติการอีกด้วย


(จากซ้าย) Mr. Wilson Tseng ตัวแทนผู้บริหาร ฝ่ายการขาย สายการเดินเรือ T.S. Lines Thailand และ Mr. Jones Huang ตัวแทนผู้บริหาร สายการเดินเรือ T.S. Lines Thailand

“ท่ามกลางความผันผวนจากวิกฤตการณ์ระดับโลกในปัจจุบัน T.S. Lines ยังคงเดินหน้ารับมือกับความเปลี่ยนแปลงต่างๆ อย่างชาญฉลาดและเป็นมืออาชีพ ซึ่งผมต้องขอขอบคุณทั้งทีมงานที่ยอดเยี่ยมของเรา และการสนับสนุนจากสำนักงานใหญ่ที่ไต้หวัน โดยเฉพาะทีมพนักงานในประเทศไทยของเรา ซึ่งช่วยให้เราสามารถประคองตัวอยู่เหนือระลอกคลื่นในมหาสมุทรของภาคอุตสาหกรรมที่กำลังปั่นป่วนนี้ได้อย่างมั่นคงและมีประสิทธิภาพ” Mr. Huang กล่าว

ด้วยการทำงานอย่างมุ่งมั่นและทุ่มเทตลอด 20 ปี ของการดำเนินกิจการ ปัจจุบัน T.S. Lines มีเส้นทางการให้บริการ 52 เส้นทาง ครอบคลุม 16 ประเทศ และ 62 ท่าเรือปลายทาง ในวันนี้ถือว่าหน้าประวัติศาสตร์ใหม่สำหรับอีก 20 ปี ข้างหน้าของสายการเดินเรือฯ ได้เปิดขึ้นอย่างเป็นทางการแล้ว และไม่ว่าในภายภาคหน้าจะเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น ด้วยประสบการณ์และความเป็นมืออาชีพของคณะผู้บริหารที่ได้นำบริษัทผ่านวิกฤต 911, การนัดหยุดงานครั้งใหญ่ของแรงงานชายฝั่งตะวันตกสหรัฐ หรือแม้แต่การล่มสลายของอาณาจักรการเงิน Lehman Brothers สายการเดินเรือฯ ก็พร้อมที่จะรับมือ และเติบโตขึ้นไปพร้อมๆ กับพนักงานรุ่นใหม่ที่ผ่านการอบรมมาแล้วอย่างเชี่ยวชาญ

ภายใต้สโลแกนใหม่ ‘Sailing your needs along’ T.S. Lines มุ่งมั่นที่จะกลายเป็นสายการเดินเรือที่เข้าใจความต้องการของลูกค้าทุกรายได้อย่างดีที่สุด

อัพเดตข่าวสารและบทความที่น่าสนใจในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ก่อนใคร ผ่าน Line Official Account @Logistics Mananger เพียงเพิ่มเราเป็นเพื่อน @Logistics Manager หรือคลิกที่นี่

บทความก่อนหน้านี้Maersk จับมือท่าเรือ King Abdullah พัฒนาศูนย์โลจิสติกส์ หนุนอุตสาหกรรมปิโตรเคมี
บทความถัดไปHapag-Lloyd ปิดดีลซื้อกิจการ NileDutch เสริมแกร่งตลาดแอฟริกา