TON จับมือ Xperanti ร่วมพัฒนาระบบติดตามข้ามพรมแดนไทย-มาเลย์แบบไร้รอยต่อ

0
1368

บริษัท THINGS ON NET CO., LTD. (TON) ผู้นำด้านโซลูชัน Internet of Things (IoT) แบบครบวงจร และ Xperanti Solutions (M) Sdn Bhd (XPERANTI) ผู้ให้บริการเครือข่าย IoT รายแรกและรายใหญ่ที่สุดของประเทศมาเลเซีย ร่วมกันพัฒนาระบบติดตามข้ามพรมแดนแบบไร้รอยต่อ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและอำนวยความสะดวกด้านการขนส่งข้ามพรมแดนระหว่างประเทศไทยและมาเลเซีย พร้อมกับอำนวยให้การปฏิบัติการโลจิสติกส์ดำเนินไปอย่างราบรื่น   

การผนึกกำลังในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อยกระดับศักยภาพบริการติดตามสถานะสินค้าแบบครบวงจรระหว่างไทยและมาเลเซีย โดยนำเสนอระบบติดตามและค้นหาที่ใช้งานได้จริง ไม่ยุ่งยาก ไม่มีค่าบริการโรมมิ่ง ซึ่งเหมาะสำหรับบริษัทที่ต้องการควบคุม และปกป้องทรัพย์สิน อาทิ รถพ่วง ตู้สินค้าและแพเล็ต ตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทาง รวมทั้งสนับสนุนให้ผู้ประกอบการสามารถมอบบริการข้ามพรมแดนด้วยคุณภาพการบริการที่สม่ำเสมอ โดยในขั้นต้นนี้ เครือข่ายการบริการของระบบจะครอบคลุมพื้นที่ระหว่างปาดังเบซาร์ในรัฐปะลิส ชายแดนประเทศมาเลเซีย กรุงเทพฯ และระยอง “THINGS ON NET เร่งสร้างความเชื่อมั่นให้กับภาคส่วนต่างๆ ในอุตสาหกรรมการขนส่งและโลจิสติกส์ ด้วยการนำเสนอโซลูชันเครือข่ายที่ทรงประสิทธิภาพและเชื่อถือได้ โดยใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีด้านการสื่อสารไร้สายระยะไกลระดับโลก ที่ใช้พลังงานในการรับส่งข้อมูลต่ำ (LPWAN) ของ Sigfox ที่ให้ความยืดหยุ่น ราคาไม่แพง และสามารถบริหารจัดการซัพพลายเชนได้อย่างครบวงจร เทคโนโลยีดังกล่าว เป็นรากฐานที่แข็งแกร่งสำหรับการฟื้นตัวในยุคนิว นอร์มอล อีกทั้งยังสามารถยกระดับมาตรฐานของอุตสาหกรรมการขนส่งและโลจิสติกส์ในท้องถิ่นได้อย่างยั่งยืน” คุณปวิณ วรพฤกษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท THINGS ON NET CO., LTD. ผู้ถือสิทธิ์การให้บริการโครงข่าย Sigfox แต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทยเผย

ทั้งนี้ โซลูชันโลจิสติกส์อัจฉริยะดังกล่าว ยังช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับคลังสินค้าและยานพาหนะ สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับซัพพลายเชน ลดความกังวล และยกระดับความสามารถของการปฏิบัติงานได้อีกด้วย  พร้อมกันนั้น อุปกรณ์ติดตามที่ได้การรับรองจาก Sigfox ยังสามารถติดตั้งและบำรุงรักษาได้ง่าย ประหยัดพลังงาน สามารถใช้งานได้อย่างยาวนานโดยไม่ต้องชาร์จพลังงานหรือเปลี่ยนแบตเตอรี่   

นอกจากนี้ อุปกรณ์เซนเซอร์ยังเปิดเผยข้อมูลการทำงานและระบุตำแหน่งของรถบรรทุกตู้สินค้า และอุปกรณ์ส่วนควบในการขนส่ง อาทิ แพเล็ต พัสดุ และรถเข็นสินค้า ขณะที่ระบบติดตามสามารถรายงานข้อมูลรอบด้าน เช่น อุณหภูมิ ผลกระทบภายนอก และความผิดปกติต่างๆ เพื่อนำมาใช้เป็นข้อมูลเชิงวิเคราะห์ สำหรับการควบคุมคุณภาพ การตรวจสอบย้อนหลัง และพัฒนากรอบความรับผิดชอบให้ดียิ่งขึ้น รวมทั้งเพื่อการดูแลและส่งมอบสินค้าที่บอบบาง ให้ถึงมือลูกค้าอย่างปลอดภัย ตรงเวลา ในสภาพดีที่สุด     

“การขนส่งและโลจิสติกส์ เป็นอุตสาหกรรมที่มีการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญในประเทศมาเลเซีย โดยเรามีบริการที่หลากหลาย ตั้งแต่โซลูชันการขนส่งและบริหารคงคลัง  ไปจนถึงการบริหารจัดการซัพพลายเชนทั้งระบบแบบบูรณาการ ตัวอย่างเช่น ลูกค้าผู้ประกอบการโลจิสติกส์ยักษ์ใหญ่ในมาเลเซีย ซึ่งต้องการใช้ประโยชน์สูงสุดจากรถพ่วงและตู้สินค้า โซลูชันโลจิสติกส์อัจฉริยะของ Xperanti บนเครือข่าย IoTีที่ครอบคลุมทั่วประเทศของ Sigfox สามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้สินทรัพย์ และลดการเสียเวลารอได้กว่า 80 เปอร์เซ็นต์ ในกระบวนการขนส่งของลูกค้า” Mr. Vicks Kanagasingam ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Xperanti (Malaysia) กล่าวเสริม

“การมีระบบติดตามและตรวจสอบประสิทธิภาพการทำงาน เป็นกุญแจสำคัญที่ทำให้มั่นใจได้ว่า ทุกอย่างจะดำเนินไปตามแผนการอย่างแม่นยำ โดยเฉพาะในขั้นตอนการขนส่งข้ามพรมแดนประเทศเพื่อนบ้านอย่างมาเลเซีย-ไทย โดยความร่วมมือครั้งนี้ นับเป็นก้าวสำคัญของเครือข่ายของ Sigfox และ Xperanti ที่มุ่งมั่นในการสนับสนุน THINGS ON NET อย่างเต็มที่ เพื่อยกระดับอุตสาหกรรมการขนส่งและโลจิสติกส์ รวมถึงเพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาประเทศไทย 4.0 ด้วย” Mr. Kanagasingam กล่าวเพิ่มเติม


อัพเดตข่าวสารและบทความที่น่าสนใจในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ก่อนใคร ผ่าน Line Official Account @Logistics Mananger เพียงเพิ่มเราเป็นเพื่อน @Logistics Manager หรือคลิกที่นี่

อัพเดตข่าวสารและบทความที่น่าสนใจในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ก่อนใคร ผ่าน Line Official Account @Logistics Mananger เพียงเพิ่มเราเป็นเพื่อน @Logistics Manager หรือคลิกที่นี่

บทความก่อนหน้านี้ESCO มอบรางวัลออกแบบโลโก้ครบรอบ 30 ปี ให้แก่บุคลากร
บทความถัดไปFarEye ระดมทุนรอบ Series D มุ่งยกระดับแพลตฟอร์มโลจิสติกส์ที่ให้บริการแก่บริษัทชั้นนำ